เสลดเยอะตลอดเวลา หายได้! ถ้าเข้าใจสิ่งนี้

by ร้านขายยาย่งเชียงตึ๊ง 永昌堂药店 Yong Chieng Pharmacy
Mon, 08 Mar 2021 08:00:00 +0000
Read full version

วันก่อนได้คุยกับพี่ที่รู้จักท่านหนึ่ง เป็นพี่ผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี พี่เขามีอาการหนึ่งที่สร้างความรําคาญ ใจมาหลายปี ก็คือมีเสลดอยู่ในคอตลอดเวลา เป็นเสลดใสแต่มีความหนืด ทําให้ต้องคอยกระแอมให้คอโล่งอยู่ บ่อยๆ แดงเองก็สังเกตได้ในระหว่างที่เราคุยกัน นอกจากเสลด ยังชอบมีไข้ต่ำๆ ช่วงเย็น

พอซักถามถึงการกิน การอยู่ การใช้ชีวิต ทําให้รู้ถึงสาเหตุ เลยให้คําแนะนําพี่เขาไป มั่นใจว่าถ้าทําแบบนี้ อาการดีขึ้นแน่นอน เลยอยากนํามาแบ่งปันเผื่อใครมีอาการอยู่จะได้นําไปใช้ได้ค่ะ

สรุปพฤติกรรมของพี่เขาเป็นประมาณนี้ค่ะ

อย่างที่แดงเคยเล่าไปว่าโรคในทางแผนไทยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือโรคทางปิตตะ วาตะ และ เสมหะ ของพี่เขาชัดเจนว่าเป็นที่ระบบเสมหะ คือเสมหะงวด หนืด เคลื่อนไม่ดี และมีอาการไฟกําเริบด้วยทําให้มี ไข้ต่ำๆ ไอความร้อนขึ้นสูงยิ่งเสริมให้เสมหะเหนียวแห้ง ซึ่งทั้งหมดมาจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตค่ะ ถ้าเราเห็นภาพนี้แล้วแก้ที่ต้นเหตุ ปรับที่ระบบไฟ ลด ความร้อนในตัวลง (ปิตตะ) เพิ่มให้ระบบสูบฉีดลมในร่างกายทํางานได้ดีขึ้น (วาตะ) และเพิ่มน้ําให้เสมหะเหลว หลนมากขึ้น (เสมหะ) อาการที่เป็นเรื้อรังเหล่านี้แทบจะหายแบบไม่ต้องใช้ยาเลย

คําแนะนําคือเเบบนี้ค่ะ

  1. เข้านอนให้เร็วขึ้น ดึกสุดๆ ไม่เกิน 5 ทุ่ม ช่วง 4 ทุ่มถึงตี 2 ระบบปิตตะในร่างกายจะได้พัก ทำให้ร่างกายไม่ร้อนจนไอความร้อนลอยขึ้นเผาให้เสมหะแห้ง ถ้าเรานอนเร็วและตื่นเช้า อาการไข้ต่ำๆ ระคายคอ ร้อนในก็จะดีขึ้นด้วย
  2. หยุดดื่มชาเขียวขวดและนําอัดลมแทนน้ํา น้ําปรุงแต่งเหล่านี้แม้จะระบุว่าไม่มีน้ําตาล สารปรุงแต่ง ดื่มนานๆ ครั้งไม่มีปัญหา แต่ไม่ควรดื่มทุกวันแทนน้ําเปล่า เพราะนอกจากจะทําให้คิดรสชาติแล้ว ชาและน้ําอัดลมยังมีคาเฟอีนที่มีฤทธิ์ขับน้ําออก ยิ่งทําให้น้ําที่น้อยเคลื่อนไม่ดีอยู่แล้วแห้งไปใหญ่ แล้วยังมีโซดาที่ไปเพิ่มแรงดันสะสมในร่างกาย ไม่ดีกับระบบย่อย ในช่วงแรกอาจจะอดใจยากสักนิด ยังติดรสชาติ ) รสชาติโดยหยดน้ํายาอุทัยทิพย์ในน้ํา หรือฝานมะนาวบางๆ ลงในกระบอกน้ําเปล่า แล้วจิบทั้งวันก่อนก็ได้
  3. กินของทอดให้น้อยลง ไม่ใช่ทุกมื้อหรือทุกวันต้องมี กินเมนูที่ไม่ต้องใช้น้ํามันบ้าง เช่น นึ่ง ตั้ง คั่ว กินให้หลากหลาย ของทอดย่อยแล้วจะเหลืออนุมูลอิสระคงค้างสูง กินเยอะนานวันยิ่งเพิ่มปริมาณไอ ทําให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  4. เพิ่มการกินพืชผักสมุนไพรที่ทําให้ลมเคลื่อนดี เช่น ขิง ข่า กระชาย กะเพรา โหระพา แมงลัก พริกไทย ใบมะกรูด ตะไคร้ ซึ่งอยู่ในเครื่องต้มยํา น้ําพริก แกงป่า แกงเลียง แกงส้มทั้งหลาย อาหารกลุ่มนี้ช่วยจุดไฟ ย่อย ทําให้ระบบย่อยดี ลมเคลื่อน พัดเสมหะในร่างกายให้ไหลเวียนคล่องขึ้น
  5. เพิ่มการกินสมุนไพรรสเปรี้ยว รสเปรี้ยวจะช่วยเพิ่มน้ํา ทําให้เสมหะใส กัดเสลด ช่วยฟอกเลือด เช่น เราอาจจะบีบมะนาวลงไปในกับข้าวบ้าง กินผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด มะขาม ตะลิงปลิง (ถ้า ผลไม้เปรี้ยวมาก กินเสร็จ อย่าลืมดื่มน้ําตามเพื่อชะกรดไม่ให้กร่อนฟันด้วยค่ะ)
  6. ออกกําลังกาย จะทําให้ปอดทํางานได้ดีขึ้น หัวใจสูบฉีดเลือด และพาเสมหะทั้ง 12 ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายดีขึ้น คนที่มีเสลดเรื้อรังบ่งบอกว่าปอดมีของเสียเยอะ ปอดอ่อนแอ หัวใจทํางานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นขอให้ลุกมาออกกําลังกาย เช่น เดินเร็วทุกวันวันละ 30 นาที ออกไปสูดอากาศลึกๆ ให้ปอดได้รับออกซิเจน ให้เหงื่อออก ก็จะเป็นวิธีบริหารปอดและหัวใจ ทําให้ระบบสูบฉีดและการไหลเวียนของของเหลวในร่างกายดีขึ้น ค่ะ อะไรที่เคยขัดก็จะคล่องขึ้น

ปัจจุบันพี่คนนี้ได้รับคําแนะนําให้กินอาหารเสริมคือ วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม และอีกตัวที่เป็นสมุนไพรฝั่ง โลกตะวันตก จริงๆ แล้วพืชสมุนไพรบ้านเรามีเยอะมากที่มีวิตามินซีสูงและช่วยป้องกันโรคประจําถิ่นของเราได้ เป็นอย่างดี ถ้าอยากกิน แดงแนะนําให้กิน “ตรีผลา” เดี๋ยวนี้มีทั้งแบบน้ําและแบบเม็ดให้เลือกกินสะดวกมาก หรือจะซื้อมาต้มเองก็ยังได้

ตรีผลาเป็นพิกัดยาไทยที่ประกอบด้วยผลไม้ 3 อย่าง คือ สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม มีรสฝาด เปรียว สรรพคุณ ช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน แก้เสมหะจุกคอ และช่วยระบายสารพิษตกค้าง โดยเฉพาะมะขามป้อมที่ผลวิจัยระบุว่ามีวิตามินซีสูง กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงด้วยคะ

บทความโดย : พท.ว.ภ.อุไรศรี เอกเศวตอนันต์ (หมอแดง แพทย์แผนไทย)

ที่มา : วารสารยา

แชร์บทความให้เพื่อน

Read on Full Site